วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ที่ปัดน้ำฝน และการดูแลที่ปัดน้ำฝน รถยนต์


ที่ปัดน้ำฝน และการดูแลที่ปัดน้ำฝน รถยนต์
ช่วงนี้ฝนตก ทุกวันเลย.....

เพื่อนๆ ควรหันมาทำความสะอาดใบปัดน้ำฝนให้บ่อยขึ้น ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำ แล้วลูบเอาคราบสกปรก หรือฝุ่นออก เพราะสิ่งเหล่านี้หากติดกับใบปัดน้ำฝน เมื่อใช้งานอาจทำให้กระจกเป็นรอยได้นะครับ





คงเลิ่ยงไม่ได้กับการจอดรถตากแดด ซึ่งหลายๆท่านทุกวันนี้ก็ต้องจอดทิ้งไว้แบบนั้น
มีบางคันยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นมา นัยว่าไม่ให้ยางใบปัดเสียเร็ว
แต่แท้ที่จริงแล้ว การยกก้านใบปัดทิ้งไว้ จะทำให้สปริงที่ยึดก้าน อ่อนล้าลง อันมีผลทำให้ตัวก้านเหล็กไม่สามารถกด และ แนบกระจกได้สนิทเหมือนก่อน

ปัจจุบัน มีอุปกรณ์ที่ช่วยค้ำ ระหว่างก้านใบปัด กับ กระจกไม่ให้แนบกัน
แต่เจ้าตัวนี้นานๆเข้า สปริงมันล้า ดีไม่ดีจะพาลทำกระจกเป็นรอย เสียความรู้สึกเปล่าๆ


วิธีอย่างที่จะกล่าว เป็นวิธีง่ายๆ ในการดูแลรักษา ซึ่งมีมานานแล้ว แต่คนไทยลืมกันไปเอง ช่วยไม่ได้ ทางเรา อุบลออโต้คาร์ เลยนำกลับมาทำให้ดูอีกรอบ


นำหนังสือพิมพ์มา แล้วพับตามยาว
แล้วเอามารองที่ปัดน้ำฝนซะ
เรื่องหมึกพิมพ์ ไม่ติดกระจกแน่นอนครับ และไม่เป็นอันตรายด้วย
ในกรณีที่จอดรถอยู่ แล้วฝนตกลงมา หนังสือพิมพ์ก็ไม่ยุ่ย หรือ เปื่อย
หรือถ้าใครมีผ้าขนหนู ก็สามารถนำมารองได้เช่นกัน
ที่ใบปัดน้ำฝนของท่านก็จะมีชีวิตยืนยาวขึ้นอีกหน่อยนึง
จำไว้เสมอว่า ใบปัดน้ำฝนควรเปลื่ยนทุกๆปี ถึงมันยังดูดี แต่ยางมันหมดสภาพแล้วครับ ข้างนึงก็ไม่ถึง 300 บาท เปลื่ยนซะ จะได้สบายใจ
เปลื่ยน จะเลือกเฉพาะเปลื่ยนยาง หรือจะเปลื่ยนทั้งก้านมันก็ได้ครับ แต่ผมเลือกเปลื่ยนทั้งก้าน เพราะก้านมันทำจากเหล็ก นานๆเข้าก็เป็นสนิม ดูน่าเกลียด อีกทั้งโครงยึดใบปัดมัน พอสนิมกิน มันก็ไม่สามารถยึดยางใบปัดได้ดี

และก็ ล้างรถทุกครั้ง อย่าลืมทำความสะอาดมันด้วยนะครับ

ถ้าใครที่ทำความสะอาดยางปัดน้ำฝนประจำ จะไม่พบคราบดำๆ เกาะที่ยางปัด
และเวลาปัดทุกครั้ง กระจกก็สะอาด ไม่มีเสียงอิ๊ดอาด


แต่ถ้าใครไม่ค่อยดูแลมัน จะเจอคราบยางดำๆ ปัดทีไรจะเจอเสียงอิ๊ดอาดๆ และปัดก็ไม่สะอาดด้วย
___________ _____________ ________________ _______________
สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  รถมือสองอุบล  ศูนย์รวมรถมือสอง ตลาดรถมือสอง ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/
และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ร้านล้างรถสุดสยิว นุ่งบิกินี่ให้ลูกค้าดู!


สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  รถมือสองอุบล  ศูนย์รวมรถมือสอง ตลาดรถมือสอง ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/
และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl

ร้านล้างรถจีนผุดไอเดีย ดึงสาวสวยหุ่นดีนุ่งบิกินี่ยืนล้างรถให้ลูกค้าได้ชมอย่างหนำใจ หวังเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าหนุ่มๆที่ต้องการความแปลกใหม่





ร้านล้างรถดังกล่าว ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีจุดเด่นที่คนล้างรถนั้น เป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่ แต่งกายเพียงชุดว่ายน้ำแบบทูพีซและรองเท้าส้นสูง โดยเจ้าของรถนั้น ยังสามารถยืนชมการทำงานของสาวๆเหล่านี้ได้อย่างหนำใจ





ส่วนค่าบริการนั้น เรียกว่าไม่ใช่ย่อยเลยทีเดียว เพราะตั้งไว้ที่ราว 800 หยวนต่อการล้าง 1 ครั้ง หรือราวๆ 4,500 บาทเชียวล่ะ!




สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  รถมือสองอุบล  ศูนย์รวมรถมือสอง ตลาดรถมือสอง ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/
และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl


นุ่งบิกินี่ล้างรถ

นุ่งบิกินี่ล้างรถ

นุ่งบิกินี่ล้างรถ

นุ่งบิกินี่ล้างรถ

นุ่งบิกินี่ล้างรถ

นุ่งบิกินี่ล้างรถ

นุ่งบิกินี่ล้างรถ

นุ่งบิกินี่ล้างรถ

นุ่งบิกินี่ล้างรถ

สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  รถมือสองอุบล  ศูนย์รวมรถมือสอง ตลาดรถมือสอง ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/
และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ทำไมต้องตั้งศูนย์ล้อ


สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  รถมือสองอุบล  ศูนย์รวมรถมือสอง ตลาดรถมือสอง ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/
และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl

ทำไมต้องตั้งศูนย์ล้อ 


หลายท่าน คงเคยทราบกันมาบ้างแล้วว่า วิธีชะลอการสึกหรอของยางรถยนต์นั้น สามารถทำได้โดย การหมั่นตรวจความดันลมยางให้
เหมาะสมไม่มากหรือน้อยจนเกินไป แต่ทราบหรือไม่ว่า การตั้งศูนย์ล้อที่ถูกต้องก็เป็นอีกวิธีที่สามารถยืดอายุของยางรถยนต์ได้ ดังนั้น
จึงควรทำความรู้จักกับองค์ประกอบ ของศูนย์ล้อ ซึ่งมีการตรวจวัดด้วยกัน 4 มุมคือ

1. TOE-IN และ TOE-OUT
2. CAMBER
3. CASTER
4. KINGPIN


มุม TOE-IN และ TOE-OUT
หมายถึง ลักษณะที่ยางคู่หน้าหุบเข้า หรือยางล้อหน้า ทั้งสองหันเข้าหากัน และ มุม TOE-OUT คือ ล้อหน้าทั้งสองหันออกจากกัน
(ดูภาพตัวอย่างประกอบ) ถ้าล้อทั้งสองหันเข้าหากัน มากเกินไป หรือหันออกจากกันมากเกินไป จะทำให้หน้ายางทั้งสองเกิดการลื่นไถลเสียดสีไป
ด้านข้างผลคือทำให้ดอกยางสึกอย่างรวดเร็ว หรือสึกไม่สม่ำเสมอมีลักษณะปลายดอกยาง ตวัดขึ้น เหมือนปลายขนนกตลอดหน้ายาง



มุม CAMBER
เป็นการเอียงของยางส่วนล่างหรือส่วนบน ถ้าส่วนล่างเอียงเข้าหากันเราเรียกว่ามุม CAMBER บวก (ดูภาพตัวอย่างประกอบ)
การเอียง ยางส่วนบนกางออกในลักษณะ \ / เพื่อให้ยางรับ น้ำหนักบรรทุกได้พอดีกับหน้ายาง เมื่อใช้รถ ไปนานๆ มุมของ CAMBER
อาจเปลี่ยนแปลง ไปได้ และถ้าเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่กำหนดไว้น้ำหนักจะกดลงที่ด้านนอกของยางมากกว่า ด้านในทำให้ยางสึกผิดปกติด้านเดียว



มุม CASTER
เป็นมุมที่ทำให้รถวิ่งตรงไปข้างหน้าได้ง่าย ดูตัวอย่างได้จากรถจักรยานขาที่ยึดล้อทั้งคู่จะเอียงไปด้านหน้าเห็นได้ว่ารถ จักรยานสามารถ
วิ่งไปโดยปล่อยมือได้ (ดูตัวอย่างภาพประกอบ)เปรียบได้กับ มุม CASTER ทั้งสองล้อต้องมีมุมเท่ากัน ซึ่งจะทำให้รถวิ่งไปข้างหน้าได้ตรงทาง
ถ้ามุม CASTER ข้างใดน้อยกว่าอีกข้าง หนึ่งรถก็จะพยายามหันไปทางด้านน้อย ผู้ขับรถต้องพยายามขืนพวงมาลัยเสมอจะทำให้
ยางสึกไม่เรียบเกิดการสึกของดอก ยางใน ลักษณะปลายตวัดเหมือนขนนก



มุม KINGPIN
เป็นตัวรับน้ำหนักจากรถไปยังล้อ และขณะเดียวกันก็เป็น พลาของศูนย์ล้อด้วยมุมของ KINGPIN มีส่วนสัมพันธ์กับมุมของ CAMBER มาก KINGPIN
จะช่วยทำให้การบังคับพวง มาลัยทำได้ง่ายและเมื่อเลี้ยวไปแล้วพวงมาลัยสามารถคืนกลับมาได้เอง KINGPIN นี้เหมือน กับ CAMBER
ทำให้น้ำหนักรถกดลงที่ด้านนอกของยาง ถ้า KINGPIN ผิดพลาด ผลคือจะทำ ให้ยางสึกหรอด้านเดียว

ศูนย์ล้อที่ผิดพลาดจะทำให้อายุของยางลดลงอย่างรวดเร็ว สามารถสังเกตได้คร่าว ๆ จากความผิดปกติของการสึกหรอของยางแต่ศูนย์
ล้อที่ไม่ถูกต้องไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า คนส่วนมากจึงไม่ค่อยสนใจซึ่งความจริงที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากส่วนหนึ่ง
ดังนั้น จึงควรตรวจเช็คและตั้งศูนย์ล้อเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน หรือภายหลังจากการทำการซ่อมช่วงล่างทุกครั้งเพื่อยืดอายุการใช้งาน
ของยาง และเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่


สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  รถมือสองอุบล  ศูนย์รวมรถมือสอง ตลาดรถมือสอง ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/
และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วิธีดูแลรถยนต์ติดแก๊ส LPG ป้องกันการเกิดไฟไหม้


วิธีดูแลรถยนต์ติดแก๊ส LPG ป้องกันการเกิดไฟไหม้


วันนี้เราอุบลออโต้เลยจะมาแนะนำวิธีการดูแลรักษารถยนต์ที่ติดตั้งระบบแก๊ส LPG เพื่อความปลอดภัยกันนะครับ


1. ตรวจเช็ครอยรั่วซึมของก๊าซ ตามข้อต่อและจุดต่างๆ อย่างน้อยปีละครั้ง โดยใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำ หรือเครื่องตรวจวัดก๊าซรั่ว
2. ตรวจเช็คและทำความสะอาดไส้กรองอากาศทุก 5,000 กิโลเมตร บ่อยกว่าการตรวจเช็คเมื่อใช้น้ำมันเบนซินอย่างเดียว (ปกติ 10,000 กิโลเมตร)
3.ตรวจดูระบบน้ำหล่อเย็น ดูร่องรอยการรั่วไหลของน้ำและคราบน้ำมันตามจุดต่างๆบริเวณห้องเครื่องยนต์ และพื้นโรงรถเป็นประจำ สภาพสายไฟของรถและของระบบแก๊ส ควรอยู่ในสภาพที่ดี
4. ควรตรวจเช็คและตั้งบ่าวาล์วไอเสีย ทุกระยะ 40,000 – 60,000 กิโลเมตร เพราะบ่าวาล์วของไอเสียของเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซ LPG จะมีโอกาสสึกหรอเร็วกว่าการใช้น้ำมันเบนซิน จึงควรใช้น้ำมันเบนซินสลับกับการใช้ก๊าซบ้างเป็น ระยะ
5. ห้ามดัดแปลงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานก๊าซที่ได้รับการติดตั้งจากศูนย์ที่ได้มาตรฐาน หากมีปัญหาให้รีบติดต่อศูนย์บริการที่ติดตั้งมาทันที อย่ารังเกียจช่าง หรือทะเลาะกับช่าง ควรมีทัศนคติที่ดีต่อกัน ระหว่างผู้ทำ และ ผู้ใช้
6. อุปกรณ์ที่ติดตั้งระบบก๊าซควรใช้ของใหม่ที่ได้มาตรฐาน
7. เพื่อรักษาสภาพของเครื่องยนต์ ควรใช้น้ำมันสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนและหลังการใช้
8. หากรู้สึกว่ามีกลิ่นแก๊ส และสงสัยว่าเกิดการรั่วไหลให้รีบหยุดรถและดับเครื่องยนต์โดยทันที รีบปิดระบบแก๊สหันมาใช้น้ำมันสตาร์ทเครื่องแล้วรีบนำรถข้า ศูนย์บริการที่ติดตั้งทันที
9. หากเกิดไฟไหม้ที่ตัวรถ ให้รีบดับเครื่องยนต์ และรีบออกจากตัวรถ หากสามารถดับไฟได้ ให้รีบดับไฟที่แหล่งกำเนิด แล้วรีบแจ้งตำรวจ
10. เพื่อรักษาประสิทธิภาพ และคุณภาพของชิ้นส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบน้ำมัน ควรมีน้ำมันติดถังไว้อย่างน้อย 1 ส่วน 4 ถังเสมอๆ และเพื่อป้องกันระบบน้ำมันเสียหาย
11.เปลี่ยนหัวเทียนทุกๆ40.000กิโล สายหัวเทียน คอยล์จุดระเบิดที่หมดอายุรั่วลงกาวได้ คือตัวจุดประกายไฟชั้นดี ไม่ควรใช้ต่อไป


สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  รถมือสองอุบล  ศูนย์รวมรถมือสอง ตลาดรถมือสอง ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/
และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ความรู้รถยนต์ เมื่อไหร่ควรล้างเเอร์ในรถยนต์ ?

เมื่อไหร่ """"   ควรล้างเเอร์ในรถยนต์ ?







ถามพูดถึงเรื่องล้างแอร์เเล้ว มีบางท่านสงสัยว่าทำไมต้องล้าง เเละต้องล้างเมื่อไหร่ วิธีไหนบ้าน วันนี้firstclubcar เอาวิธีล้างตู้เเอร์ในรถยนต์มาฝาก ส่วนวิธีสั่งเกตุง่ายๆเลย

1.ล้างตามระยะ 1ปีขึ้นไป หรือ 20,000กิโลเมตรขึ้น

2.ถ้าแอร์รถยนต์ของคุณมีกลิ่นฝุ่นนั้นเเปลว่าถึงเวลาล้างตู้แอร์เเล้วครับ



สำหรับวิธีทำความสะอาดตู้แอร์ มี 4 วิธีด้วยกัน

1.ล้างตู้แอร์แบบถอดตู้ ต้องรื้อตู้แอร์ แล้วเอาคอยล์เย็นมาล้างข้างนอก น้ำยาทำความสะอาดแตกต่างกันไปแล้วแต่ช่างจะใช้อะไรเพื่อประหยัดต้นทุน ราคาถูกก็ผงซักฟอก โซดาไฟ พวกนี้จะล้างออกยาก ดังนั้น เวลาประกอบกลับ เปิดแอร์จะรู้สึกว่ามีกลิ่นผงซักฟอก แสดงว่าล้างออกไม่หมด อาจกัดกร่อนคอยล์เย็นได้ และเมื่อสูดดมเข้าไป ไม่ส่งผลดีต่อระบบหายใจ ถ้าคนแพ้ ก็อาจแสบตา แสบจมูก การถอดล้างตู้แอร์แบบนี้ ต้องแวคเติมน้ำยาแอร์ใหม่ และต้องเปลี่ยนไดเออร์กับวาล์วความดัน ถ้าประหยัดงบ ไม่ยอมเปลี่ยน ท่อแอร์รั่วได้เพราะความชื้นเข้าไปอยู่ในระบบจากการถอดตู้แอร์

2.การล้างแบบไม่ถอดตู้ เพื่อช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น เสร็จเร็ว ทางร้านได้เงินไว โดยทั่วไปเครื่องล้างตู้แอร์จะกำหนดน้ำยาที่ต้องใช้เฉพาะสำหรับการล้าง แต่บ้างเอาผงซักฟอก โซดาไฟ ผสมลงไปเพื่อให้น้ำยาใช้ได้หลายคันขึ้น เวลาล้างน้ำยาออกจะมีปัญหา เพราะเครื่องไม่ได้ถูกกำหนดให้ล้างผงซักฟอก หรือโซดาไฟ ผลที่ได้อาจคาดไม่ถึง การล้างแบบนี้เหมาะกับรถใหม่ รถที่ล้างแอร์ปีละ 1 ครั้ง หรือเหมาะกับรถที่ดูแลตู้แอร์เป็นประจำ ถ้าใช้มา 7-8 ปี แล้ว ช่างแอร์ไม่ค่อยอยากล้างวิธีนี้ เพราะตู้แอร์อาจรั่วอยู่แล้ว แต่ฝุ่นไปอุดรูรั่วไว้ พอล้างเอาฝุ่นออก รอยรั่วก็ปรากฏ

3.การฉีดสเปรย์ทำความสะอาดตู้แอร์ ไม่ต้องรื้อตู้ออกมา ฉีดสเปรย์ทำความสะอาดให้ทั่วคอยล์เย็น ก็เป็นอันเรียบร้อย คราบน้ำยาจะค่อยๆ ออกมาพร้อมกับน้ำแอร์ตามท่อน้ำทิ้ง ถ้าตู้แอร์ไม่สกปรกมาก วิธีนี้ก็พอใช้ได้ แต่คงต้องฉีดสเปรย์กันบ่อย 2-3 เดือนต่อครั้ง เพราะอยู่ในเมือง ฝุ่นจะเยอะ สเปรย์บางยี่ห้อจะช่วยขจัดกลิ่นด้วย ราคาค่าฉีดสเปรย์ รวมแล้วมากกว่าการล้างตู้แอร์แบบที่ 1 และที่ 2

4.การใส่กรองแอร์ ไม่ใช่รถทุกรุ่นจะใช้ได้ เพราะกรองแอร์ก็ทำมาสำหรับรถอีกระดับ ช่วยกรองฝุ่นอีกวิธีหนึ่ง แต่อายุการใช้งานก็ประมาณ 5,000 กม. ต้องเปลี่ยนอันใหม่ ถ้าไม่เปลี่ยน ลมจะผ่านเข้าตู้แอร์ไม่สะดวก ลมแอร์ที่ออกมาก็จะอ่อนกำลังลง ลมที่ตีกลับจะมีผลต่อคอมแอร์ กรองแอร์สำหรับรถบางรุ่นราคาพอรับได้ แต่บางรุ่นราคาเป็นพันบาท ถ้าใช้วิธีนี้ในการทำความสะอาด ในระยะ 1 ปี ก็เสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการทำความสะอาด แบบที่ 1 และที่ 2

ส่วนการป้องกันให้ใช้แอร์ได้นานๆ ไม่ต้องล้างบ่อยๆ วิธีง่ายๆ ลงรถเมื่อไหร่เคาะพรมเมื่อนั้น เพราะพัดลมแอร์อยู่ใกล้กับพรมรองเท้า ถ้าสะสมไว้มันจะดูดเข้าไปเรื่อยๆ ทำให้ตู้แอร์ตันเร็ว ถ้าทำได้เป็นนิสัย ยืดอายุล้างตู้แอร์ได้กว่า 2 ปีเลยทีเดียวครับ


สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl


รถป้ายแดงที่คุณ อาจจะไม่เคยรู้

รถป้ายแดงที่คุณ อาจจะไม่เคยรู้


ช่วงนี้เบือนหน้าหนีไปทางไหน ก็แลจะเห็นแต่รถใหม่ป้ายแดงออกมาลั้นลากันตามถนนมากมาย แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็มาจากรถยนต์คันแรกที่ผลักดันรถป้ายแดงให้มีมากสุดในตลาดช่วงนี้ ซึ่งทำให้เราๆ เริ่มชินกับบรรดารถใหม่ป้ายแดงที่ออกมาคับคั่งถนน จนหลายคนบ่น แต่แม้รถป้ายแดงจะเยอะมากมาย แต่คุณทราบหรือไม่ว่า การใช้รถป้ายแดงก็มีกฎระเบียบที่ต้องเคร่งครัดและปฏิบัติตาม ซึ่งหลายคนอาจจะไม่เคยทราบเลยก็ได้

ป้ายแดง คือป้ายหรือแผ่นป้ายที่ออกให้ทดแทน ซึ่งตามหลักแล้ว ป้ายแดงจะถูกนำมาใช้กับรถยนต์ที่ยังไม่ได้รับการรับรองด้วยการจดขึ้นทะเบียนเรียบร้อยตามกฎหมาย ซึ่งป้ายดังกล่าวนั้นออกมาเพื่อกำกับเบื้องต้นให้รถคันดังกล่าวสามารถใช้งานบนถนนได้ชั่วคราว แต่ก็ต้องอยู่ในวงจำกัดและข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบกที่เคร่งครัดและต้องปฏิบัติตาม





ป้ายแดงจริง - ปลอม เรื่องวุ่นๆแก่ผู้ใช้รถ


ก่อนจะว่าไปมากความ เบื้องต้นเลย ตอนคุณรับรถจากโชว์รูม ซึ่งคุณจะเริ่มต้นด้วยการจ่ายค่ามัดจำป้าย 3000 บาท เป็นค่าใช้ป้ายชั่วคราวนั้น คุณจะได้รับป้ายแดงมาพร้อมกับรถเลย แต่ในช่วงทีผ่านมาหลายคนเจอปัญหา ป้ายแดงปลอมอื้อซ่า จนมีคนตั้งคำถาม 2 ข้อสั้นๆ ง่ายว่า 1.ทำไมถึงมีป้ายแดงปลอม และ 2 จะรู้ได้ไงว่าจริงหรือปลอม

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะป้ายแดงปลอม ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว ด้วยข้อเท็จจริงหนึ่งคือรถใหม่ มีการซื้อขายทุกวันมีรถยนต์จำนวนมากที่ต้องปล่อย ออกไป ซึ่งตามปกติแล้วป้ายแดง เซลล์และโชว์รูมจะเป็นผู้ขอจากกรมขนส่งในพื้นที่อยู่แล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดในการขอและราคาการขอป้ายแดงนั้นก็ไม่ใช่ถูกๆเลย จนสามารถกล้าพูดได้ว่า ถ้าไม่คิดจะเป็นเซลล์ขายรถแบบลงหลักปักฐานก็แทบจะไม่ซื้อ ป้ายแดงไว้เอง และด้วยจำนวนป้ายไม่เยอะประกอบกับจำนวนรถแต่ละวันมีมาก



ยิ่งเมื่อประกอบกับปัจจุบันลูกค้ามีความสามารถในการเลือกหาเลขทั้งจากป้ายประมูล หรือจะไปจองเลขด้วยตัวเองที่กรมการขนส่งทางบก ก็ทำให้ป้ายแดงมีระยะเวลาที่ใช้ยาวนานขึ้น โดยทั่วไปอาจจะเดือน -2 เดือน แต่ก็มีบ้างที่กินเวลามากกว่าที่คิด ซึ่งบ้างถึงปีก็มี เล่าถึงบ่อยครั้งไปตามโลกออนไลน์

แน่นอนว่าป้ายแดงปลอมดูง่ายๆ และ คุณสามารถสังเกตได้ง่ายมาก เพราะ ข้อแรก ป้ายแดงปลอมจะมีเนื้อสีที่มีลักษณะสะท้อนแสง บ้างอาจจะดูซีดจางเหมือนอมชมพูนั่นหมายถึงป้ายปลอมอย่างแน่นอน ประการต่อมาให้ดูที่งานป้าย หลายครั้งคุณอาจจะพบว่าป้ายใส่เรียบร้อยแล้ว แต่ลองเคาะดูเทียบกับป้ายรถทั่วไป แล้ว โดยมากป้ายแดงปลอมจะบางกว่าอย่างชัดเจน และท้ายสุดมันต้องมีตราปั้มตัวนูนต่ำ "ขส" ที่ย่อมาจากขนส่ง และป้ายปลอมจะไม่มีสมุดกำกับป้ายให้ลงรายละเอียดมาด้วย ซึ่งหมายถึง คุณเสี่ยงโดนจ่าจับ นั่นเอง

กฎหลักป้ายแดง


ทีนี้พอรู้ที่มาและป้ายแดงกันบ้างแล้ว แต่ที่หลายคนไม่รู้คือว่า ป้ายแดงนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะใช้รถได้ตามอำเภอใจเนื่องจากมันมีข้อจำกัดในการใช้งานและ ส่วนหนึ่งเพื่อลดความเสี่ยงในการนำรถไปก่ออาชญากรรมต่างๆ ซึ่งไม่สามารถติดตามได้ถ้ารถยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการ

1.ลงรายละเอียด ถ้าคุณใช้ป้ายแดงจริง คุณจะพบว่ามีสุดคู่มือทะเบียนมาให้ด้วย และเมื่อเปิดสมุดออกมาหน้ากระดาษจะเต็มไปด้วยการให้กรอกรายละเอียด ซึ่ง ในส่วนรายละเอียดตรงนี้ใช้กรอกเพื่อแสดงการใช้รถว่าไปไหน ทำอะไรมาบ้าง โดยมาจะลงด้วยดินสอเพื่อสามารถลบทิ้งได้ในภายหลัง เนื่องจาก สมุดคู่มือนี้หากขอใหม่จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แล้วด้วยความที่หลายคนไม่ทราบจึงมักไม่ลงคู่มือกัน และทำให้เมื่อโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจสอบก็มักจะโดนจับข้อหาไม่ลงรายละเอียด ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนไม่ทราบนั่นเอง



2.ห้ามใช้รถกลางคืน ยังไม่เลิกกฎนี้แต่ด้วยการจราจรที่กลายเป็นจลาจลในบ้านเราทำให้ผู้ใช้รถหลายคนไม่ทราบว่า รถป้ายแดงห้ามใช้ในยามวิกาลหรือช่วงกลางคืน ซึ่งตามกฎหมายแล้วระบุชัดอยู่แล้วว่า รถป้ายแดงนั้นต้องใช้ในเวลาช่วงกลางวันเท่านั้น ในช่วงเวลาที่กำหนดคือ 06.00-18.00 น. แต่ด้วยระยะหลังบ้านเราการจราจรติดมาก จึงมีการขยายไปถึง 20.00 น. ทว่าถ้าขับหลังจากนี้ คุณก็เสี่ยงที่จะโดนเรียกตรวจสอบและจ่าจับสูง

3.ห้ามวิ่งข้ามเขต (จังหวัด) หลายคนอาจจะไม่ทราบ แต่นอกจากที่หลายคนมักทราบกันดีแล้วรถป้ายแดง ยังมีข้อห้ามวิ่งข้ามเขต หรือว่าง่าย คือออกต่างจังหวัด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ขนส่ง ซึ่งหากมีความจำเป็นสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานขนส่งในพื้นที่ โดยระบุวันเวลา และจุดหมายปลายทาง การเดินทางขออนุญาตเฉพาะเป็นกรณีแล้วนำเอสารดังกล่าวติดรถ ก็ช่วยให้คุณปลอดจากตำรวจได้

4.ระวังเจอข้อใช้ป้ายนานไป เรื่องนี้จริงไม่มีโจ๊ก เพราะมีหลายคนเจอมาแล้ว กับข้อหานี้ ทั้งที่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าป้ายแดงนั้น มีการระบุเป็นนับในการใช้งานตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ว่าจะใช้ได้เพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่หน้าที่ของมันคือใช้ทดแทนก่อนที่จะได้รับป้ายจริง ดังนั้นหากคุณใช้ป้ายนานไป คุณอาจกตกอยู่ในภาวะหลีกเลี่ยงการจดทะเบียนรถ หรือเป็นรถยนต์ที่ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน ซึ่งมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท ตามมาตรา 59 ซึ่งตามปกติแล้วการจดทะเบียนทั่วไปจะมีระยะเวลาเฉลี่ย 30-45 วัน เนื่องจากโชว์รูมมักรอให้มีจำนวนเยอะก่อนแล้วค่อยนำไปจดทะเบียนในครั้งเดียว



ป้ายแดงเสี่ยงหาย สูง ..คุณรู้หรือไม่

แม้จะไม่มีสถิติที่เป็นทางการมากนัก แต่เชื่อหรือไม่ว่า รถใหม่ป้ายแดงมักเป็นที่หมายปองของบรรดาขุนโจรจารกรรมรถยนต์ กรณีหนึ่งที่ชัดเจนมากคือ กรณีของคดีขโมยรถกระบะของฝน ธนสุนทร ที่เกิดขึ้นไปหมาดๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา



โจรขโมยรถชอบรถป้ายแดง ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด เพราะ สามารถสวมอ้างเป็นเจ้าของรถได้ง่ายกว่า หากโดนเรียกตรวจสอบที่ด่านตรวจ เนื่องจากป้ายแดงไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าเขียนสมุดเพื่อบอกว่าไปทำอะไรที่ไหน ทำให้ยากแก่การตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของรถ เว้นแต่คุณจะเอาใบจองรถใส่ไว้ในลิ้นชักหน้านั่นแหละ จึงจะได้ไล่ทันได้

ประการต่อมา ก็อย่างที่เราทราบๆกันว่า รถยนต์ใหม่ป้ายแดงยังอยู่ในสภาพที่ดี และ มันมีราคามากกว่ารถที่ใช้งานแล้ว แถมยิ่งเมื่อรวมกับการตรวจสอบที่ยาก และป้ายแดงเดี่ยวนี้จะขับไปไหนมาไหนก็ได้ โดยที่ไม่มีใครตั้งคำถมหรือสงสัยมาก ...ทำไมป้ายแดงจะไม่เสี่ยงถูกขโมย

แม้การมีรถใหม่ป้ายแดงจะแสดงถึงการที่คุณกำลังก้าวไปอีกขั้นในความสำเร็จ ในการเริ่มลงหลักปักฐานที่สำหรับใครหลายๆคน นี่คือชัยชนะอันยิ่งใหญ่ แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้คือว่า คุณต้องรู้จักกฎข้องบังคับทำให้คุณสามารถเลี่ยงในการที่จะทำผิดหรือละเมิดกฎหมาย ที่อาจจะทำให้คุณตกอยู่ในภาวะความเสี่ยง




เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง


สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/

และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่ 
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

9 ข้อต้องรู้! ก่อนไปสอบใบขับขี่ (เกณฑ์ใหม่ 1 มิ.ย. 2557)

9 ข้อต้องรู้! ก่อนไปสอบใบขับขี่   (เกณฑ์ใหม่ 1 มิ.ย. 2557)


หลายคนคงทราบกันแล้วว่ากรมขนส่งปรับเกณฑ์การสอบใบขับขี่ใหม่ โดยเนื้อหาเพิ่มทักษะการขับขี่ เพิ่มจำนวนข้อสอบ เพิ่มเกณฑ์ผ่านการทดสอบและช่องทางอนุญาตใบขับขี่มากขึ้น แต่บางคนอาจจะไม่รู้รายละเอียด City Ford จึงมี 9 เรื่องน่ารู้สำหรับการสอบใบขับขี่แบบใหม่มาฝากกันค่ะ

1. ปรับเกณฑ์การสอบใบขับขี่ใหม่ จะเริ่ม 1 มิ.ย. 57
2. ในการสอบภาคทฤษฎีนั้นเพิ่มจำนวนข้อสอบเป็น 50 ข้อ ผ่านเกณฑ์การสอบร้อยละ 90 (หรือทำได้ 45 ข้อ) จากเดิมข้อสอบ 30 ข้อเกณฑ์ผ่านเพียงร้อยละ 75 (หรือทำได้ 22 ข้อ)
3. ข้อสอบแบบใหม่มีจำนวนทั้งสิ้น 1,000 ข้อ ใช้หมุนเวียนออกสอบในแต่ละรอบ
4. ข้อสอบทั้งหมดเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของกรมขนส่งทางบก ให้ประชาชนได้ศึกษาก่อนสอบด้วยค่ะ
5. สำหรับการทดสอบภาคปฏิบัติ หรือการทดสอบขับรถนั้น จะทำในวันถัดไป แต่ไม่เกิน 90 วัน นับจากวันที่ยื่นเรื่องวันแรก
6. ผู้ที่จะขอรับใบอนุญาตขับขี่ จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ไม่มีใบอนุญาตชนิดเดียวกัน ไม่อยู่ระหว่างพักและเพิกถอนใบอนุญาต
7. สำหรับผู้ที่มีร่างกายพิการดังต่อไปนี้ เช่น แขนขาดข้างเดียว ขาขาดข้างเดียว ตาบอดข้างเดียว ลำตัวพิการ หูหนวก เมื่อต้องการมีใบอนุญาตขับขี่ ต้องขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ขนส่งก่อนจึงจะทำได้
8. หลักฐานที่นำไปด้วย คือ
-บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมใบสำเนา หรือบัตรประจำตัวข้าราชการพร้อมใบสำเนาที่ใช้แทนบัตรประชาชน
-ใบรับรองแพทย์ตัวจริงไม่เกิน 1 เดือน ที่รับรองว่าผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
9. เนื่องจากปัจจุบันผู้ขอรับใบอนุญาตขับขี่มีจำนวนมากขึ้น ทำให้ต้องรอคิวอบรมและทดสอบเป็นเวลานาน กรมการขนส่งฯจึงให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด ประสานสถาบันการศึกษาภาครัฐที่มีมาตรฐานและมีความพร้อมจัดอบรมภาคทฤษฎีตามหลักสูตรที่กรมการขนส่งฯกำหนด ให้กับผู้ที่ประสงค์ขอรับใบอนุญาตขับขี่ เบื้องต้นเฉพาะผู้ขอรับใบอนุญาตขับขี่รถใหม่ และการต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ ส่วนจะเริ่มได้เมื่อไหร่นั้น จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบ





สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/

และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่ 
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl

สุดล้ำ! NISSAN LEAF รถพลังงานไฟฟ้าทำความสะอาดตัวเองได้

สุดล้ำ! NISSAN LEAF รถพลังงานไฟฟ้าทำความสะอาดตัวเองได้


มีมาฝากให้ได้ติดตามกันอีกแล้วครับสำหรับข่าวสารวงการรถยนต์ของเราในวันนี้ ยังคงมีข่าวคราวใหม่ๆ จากวงการยานยนต์มาฝากให้ได้ติดตามเหมือนเคยครับ โดยข้อมูลของเราในวันนี้มาจากทางด้านของค่ายรถยนต์ Nissanที่ล่าสุดได้เผยรถต้นแบบ Leaf ที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า มีความสามารถพิเศษตรงที่มันทำความสะอาดตนเองได้ด้วย

โดยเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นถูกติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถยนต์รุ่น Nissan Note และตามมาด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง Nissan Leaf ที่พึ่งจะได้รับการเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาครับ ทั้งนี้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า Nissan Leaf มีมาสำหรับเอาใจลูกค้าในตลาดสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะเลย โดยเจ้าเทคโนโลยีที่ว่านี้ เป็นเทคโนโลยีสีรถยนต์แบบนาโนที่สามารถทำความสะอาดตัวเอวได้ มันถูกคิดค้นขึ้นโดยบริษัท UltraTech International ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งนับเป็ฯบริษัทแรกที่คิดค้นเทคโนโลยีนี้ โดยจะมีการเคลือบสาร Super-Hydrophobic ที่มีชื่อทางการค้าว่า Ultra-Ever Dry ลงบนชั้นสีอีกชั้นหนึ่งของรถยนต์ ซึ่งเจ้าสารที่ว่านี้จะมาช่วยปกป้องตัวถังรถจากสิ่งสกปรกต่างๆ ได้รอบคันเลยทีเดียว ถือว่าน่าสนใจมากๆ เลยครับ



สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/

และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่ 
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl




วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เมื่อรถยางแตกขณะขับรถ !!

เมื่อรถยาง แตกขณะขับรถ มีข้อแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้



1. มือทั้งสองต้องจับอยู่ที่พวงมาลัยอย่างมั่นคง

2. ถอนคันเร่งออก

3. ควบคุมสติให้ดีอย่าตกใจ มองกระจกหลังเพื่อให้ทราบว่ามีรถใดตามมาบ้าง

4. แตะเบรกอย่างแผ่วเบาและถี่ๆ อย่าแตะแรงเป็นอันขาด เพราะจะทำให้รถหมุน

5. ห้ามเหยียบคลัตช์โดยเด็ดขาดเพราะถ้าเหยียบคลัตช์รถจะไม่เกาะถนนรถจะลอยตัว และจะทำให้บังคับรถได้ยากยิ่งขึ้น อาจเสียหลัก เพราะการเหยียบคลัตช์เป็นการตัดแรงบิดของเครื่องยนต์ ให้ขาดจากเพลา

6. ห้ามดึงเบรกมืออย่างเด็ดขาด จะทำให้รถหมุน

7. เมื่อความเร็วรถลดลงพอประมาณแล้วให้ยกเลี้ยวสัญญาณเข้าข้างทางซ้ายมือ

8. เมื่อความเร็วลดลงระดับควบคุมได้ ให้เปลี่ยนเกียร์ต่ำลงและหยุดรถข้อสังเกตเมื่อยางระเบิด คือ ไม่ว่ายางด้านใดจะระเบิดล้อหน้าหรือล้อหลังก็ตาม เมื่อระเบิดด้านซ้ายรถก็จะแฉลบไปด้านซ้ายก่อน แล้วก็จะสะบัดกลับ และสะบัดไปด้านซ้ายอีกที สลับกันไปมา และในทำนองตรงกันข้าม หากระเบิดด้านขวาอาการก็จะกลับเป็นตรงกันข้ามอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้น ส่วนมากก็ คือ หากขณะยางระเบิดรถวิ่งอยู่ที่ความเร็วสูงมากๆ พอยางระเบิดขึ้นมารถก็จะกลิ้งทันที ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นการขับรถที่ใช้ความเร็วสูงๆจึงมักจะแก้ไขอะไรในเรื่องนี้ไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น ในขณะขับรถ จึงไม่ควรขับรถเร็ว ความเร็วทีถือว่าปลอดภัยใน DEFENSIVE DRIVING คือ ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง


สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/

และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่ 
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

6 วิธีดูแลรักษารถยนต์ แบบง่ายๆด้วยตัวคุณเอง


ดูแลรักษารถยนต์ แบบง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง


ในยุคเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ค่าครองชีพสูงขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่พยายามรัดเข็มขัด ประหยัดเงินกันอย่างเต็มที่ทางเลือกอีกวิธีหนึ่งของคนมีรถที่ช่วยในการลดค่าใช้จ่ายคือการดูแลรักษารถสุดที่รักของตัวเองให้อยู่กับเราไปได้นานที่สุด ไม่เสื่อมอายุการใช้งานเร็วเกินไป

สำหรับผู้ใช้รถทุกท่าน การดูแลรักษาเครื่องยนต์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการยืดอายุการใช้งานรถของคุณ ปกติเราต้องตรวจตราดูแลรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ อาจจะสัปดาห์ละครั้งสำหรับการดูแลอย่างละเอียด แต่ถ้าเป็นไปได้ถ้าเราหมั่นดูแลรถของเราทุกวันก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทุกวันนี้ถึงแม้จะมีศูนย์ให้บริการดูแลรักษารถตามสถานที่ต่างๆตรวจเช็กระยะตลอดทุกๆ 10,000 กิโลเมตร แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า รถของคุณนั้นจะไม่เกิดปัญหาระหว่างทาง ทางที่ดีที่สุดคือความไม่ประมาท ควรจะหมั่นตรวจสอบอยู่เป็นระยะๆ เมื่อเกิดปัญหาจะได้ไม่บานปลายจนต้องเสียเงินไปอีกหลายพันจนถึงเป็นหมื่นๆ บาท การดูแลรักษารถยนต์นั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ยุ่งยากและเสียเวลามากเลย เรามีข้อควรปฏิบัติอย่างง่ายสำหรับการดูแลรักษารถยนต์ประจำวันของคุณมานำเสนอครับ



ประการที่ 1

ที่จะต้องตรวจก็คือ ลมยาง ตรวจง่ายๆด้วยสายตาว่ามันแฟบอ่อนหรือเปล่า ดูทุกเส้นนะครับ เพราะถ้าลมยางของแต่ละล้อไม่เท่ากันจะมีผลต่อการทรงตัวของรถ ทำให้เบรกปัด วิ่งส่าย รถแถไปด้านหนึ่ง เป็นที่มาของการเกิดอุบัติเหตุด้วย อาจจะทำให้อายุของยางสั้นลง จึงต้องควักกระเป๋าก่อนถึงเวลาอันควรด้วยนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าพบว่าแรงดันลมไม่เท่ากันต้องตรวจเติมลมให้เรียบร้อย

ประการที่ 2

ที่ต้องตรวจนั้นคือ ตรวจดูรอยหยดรั่วของน้ำและน้ำมันต่างๆ ใต้ท้องรถซึ้งก้มดูด้วยสายตาทำได้ง่ายๆครับ ถ้าพบว่ารั่วที่ล้อและเป็นน้ำมันเบรก จะต้องงดใช้งาน รีบปรึกษาช่าง และเมื่อตรวจพบว่าน้ำระบายความร้อนรั่วหยดให้หาที่มาของการรั่ว ถ้าเป็นข้อต่อให้ใช้ไขควงกดอัดให้แน่น และถ้าพบรอยรั่วของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์หรือน้ำมันเฟืองท้ายก็อย่านิ่งนอนใจ เมื่อมีเวลาจะต้องนำไปปรึกษาช่างเพื่อทำให้รอยรั่วนั้นๆ หมดไป ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยต่อกลไกดังกล่าว ของรถยนต์ นะครับ

ประการที่ 3

คือการดูแลน้ำระบายความร้อน วิธีดูก็ไม่ได้ยุ่งยากเลยนะครับ เพียงตรวจโดยการเปิดฝาหม้อน้ำออกถ้าพบว่าน้ำพร่องน้อยลงไปก็ใช้น้ำสะอาดเติมลงไปให้เต็ม สำหรับรถบางคันนะครับ ลองสังเกตดูว่าถ้ามีขวดพลาสติกที่เก็บน้ำอยู่และมีท่อเล็กๆ ต่อไปถึงหม้อน้ำ ก็ไม่ต้องเปิดฝาหม้อน้ำนะครับ ให้ดูระดับน้ำที่ขวดเก็บน้ำสำรองแทน ถ้าน้ำยังอยู่ในระดับที่กำหนดก็ไม่ต้องเติม แต่ถ้าต่ำก็ให้เปิดฝาขวดเก็บน้ำสำรอง แล้วเติมน้ำสะอาดให้เต็มนะครับ เรื่องดูแลน้ำระบายความร้อนอย่าละเลย เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ของท่านเสื่อมสภาพเร็วได้นะครับ


ประการที่ 4

ดูแล ตรวจเติมระดับน้ำมันเครื่องนะครับ เพราะถ้าน้ำมันเครื่องพร่องหรือแห้งจะทำให้เกิดการสึกหรอภายในเครื่องยนต์ วิธีตรวจระดับน้ำมันเครื่องก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแต่ดึงเหล็กวัดออกมาเช็ดทำความสะอาดแล้วใส่กดลงไปยังตำแหน่งของมันให้สุดจากนั้น ดึงออกมาตรงๆในแนวดิ่ง ระดับน้ำมันจะสังเกตได้จากรอยคราบน้ำมันที่เกาะอยู่ปลายเหล็กวัด น้ำมันจะต้องอยู่ระหว่างกลางขีดที่มีอักษร L(Low) และF(Full) ถ้าต่ำจาก L ก็ให้เติมให้อยู่ในระดับเท่าเดิมและไม่ควรเติมจนเกินอักษร Fเพราะจะทำให้ควันขาวจากน้ำมันเครื่องเข้ามาห้องเผาไหม้และเพลาข้อเหวี่ยงรั่วนะครับ ซึ้งก็ไม่เป็นผลดีต่อเครื่องยนต์เลย

ประการที่ 5

การตรวจเติมน้ำเบรกในกระบอกเก็บน้ำมันเบรกที่แม่ปั๊มเบรก ถ้ามีระดับสูงก็ไม่ต้องเติมนะครับ แต่ถ้าพร่องต่ำกว่าขีดที่กำหนดให้เติมจนได้ระดับที่ถูกต้อง การเติมน้ำมันเบรกมีข้อควรระวังก็คือ อย่าให้น้ำมันเบรกหกราดโดนสีรถจะทำให้สีเสียหาย และถ้าหกห้ามเช็ดนะครับ ให้ใช้น้ำราดให้เจือจาง เพราะจะทำให้สีเสียหายเป็นแผลทางยาวไปตลอดแนวที่เช็ด สำหรับน้ำมันเบรกนั้นถ้าพร่องมากๆทุกวัน จะต้องรีบนำรถไปปรึกษาช่างนะครับ เพราะเบรกคือชีวิต มีชีวิตของใครบ้างหรือครับ ก็ชีวิตของท่าน และผู้ที่โดยสารมากับท่านรวมถึงผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนกับท่านด้วย

ประการที่ 6


การบำรุงรักษาประจำวัน คือกระบอกคลัตช์น้ำมันจะต้องมีการตรวจเติมน้ำมันให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง กระบอกดังกล่าวอยู่ข้างๆกระบอกน้ำมันเบรกและน้ำมันที่เติมก็คือน้ำมันเบรกนั่นแหละ อย่าละเลยครับ เพราะถ้าน้ำมันหมดจะเข้าเกียร์ไม่ได้ นั่นคือรถวิ่งไม่ได้นั่นเอง



สนใจ..รถยนต์มือสองคุณภาพ  ท่านสามารถเลือกดูและติดตามข่าวสารได้กับอุบลออโต้ .ได้ที่ http://www.ubonauto.com/

และสามารถติดตามเฟสบุ๊ก ได้ที่ 
อุบลออโต้คลับ https://www.facebook.com/UbonAuto?ref=hl



วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดลับวิธีการขับรถในหน้าฝน

เคล็ดลับวิธีการขับรถในหน้าฝน


การขับรถในหน้าฝนเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากทั้งน้ำฝน หมอกที่มาเกาะกระจกรถทำให้บดบังทัศนะวิศัยในการขับขี่ รวมทั้งน้ำที่อยู่บนท้องถนนที่ทำให้สมรรถภาพการยึดเกาะของยางน้อยลง และปัจจัยอีกหลาย ๆ อย่างที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นเราจึงต้องฝึกฝนและรู้เทคนิคการขับอย่างถูกต้องเพื่อช่วยให้การเดินทางไปถึงจุดหมายและกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย โดยเทคนิคเคล็ดลับการขับรถในหน้าฝนมีดังนี้

1.ตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดก่อนออกเดินทาง เบรก พวงมาลัย ระดับของเหลวต่างๆ ปริมาณลมยาง และระบบไล่ฝ้าควรได้รับการตรวจสอบว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานสำหรับการเดินทาง ที่อาจต้องพบกับฝนที่ตกหนักระหว่างทาง

2.เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินที่มีคุณภาพดีให้พร้อม การเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดหมายเอาไว้ล่วงหน้าจะช่วยลดค่าใช้จ่าย จากการใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน และช่วยลดความตึงเครียดหากรถเสียระหว่างการเดินทาง อุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ควรตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับขี่แต่ละคน ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วควรประกอบไปด้วย ยางอะไหล่ ไฟฉาย ฟิวส์ ที่สูบลม น้ำสะอาด อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และป้ายสัญญาณขอความช่วยเหลือที่มองเห็นเด่นชัด

3.ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งาน หากใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพหรือชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีในขณะฝนตก

4.ขับอย่างระมัดระวัง! ใส่ใจในการขับขี่และรักษาระดับความเร็วให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ การขับรถด้วยความเร็วสูงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่น้ำฝนอาจก่อตัวเป็นแผ่นน้ำบางๆ คั่นกลางระหว่างล้อและถนน ทำให้ความสามารถในการยึดเกาะถนนลดลง ผู้ขับขี่จึงควบคุมรถได้ยากขึ้น

5.เปิดไฟหน้ารถขณะฝนตก เมื่อต้องขับรถในขณะฝนตกให้เปิดไฟหน้ารถเสมอ เพราะนอกจากจะช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ บนถนนได้ชัดเจนขึ้นแล้ว ยังช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นรถผู้ขับได้จากระยะไกลด้วย

6.หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแรงๆ หรือการเบรกกระทันหัน การค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็วลงนับว่าเป็นวิธีการขับขี่ที่เหมาะ สมที่สุด เพราะหากเหยียบเบรกอย่างรุนแรง รถอาจลื่นไถลได้


7.ขับรถอย่างมีสติและเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้า ในยามที่ถนนเปียกจะต้องใช้เวลาและระยะทางในการเบรกเพิ่มขึ้น เมื่อประสบกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การขับรถด้วยความระมัดระวังและไม่ขับตามหลังรถโดยสารขนาดใหญ่หรือรถบรรทุกจะ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะล้อด้านหลังของรถขนาดใหญ่มักจะปัดละอองน้ำมาใส่รถคันข้างหลัง จนอาจทำให้เสียทัศนวิสัยในการขับขี่ได้

8.หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำลึก ผู้ขับรถไม่มีทางทราบได้เลยว่าภายใต้ผิวน้ำนั้นมีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าหากขับลงไปยังแอ่งน้ำด้วยความเร็วสูง กันชนหน้าและหม้อน้ำอาจจะถูกกระแทกจนได้รับความเสียหายร้ายแรง หรือถ้าคลื่นน้ำซัดเข้ามาในห้องเครื่องก็อาจจะทำให้เครื่องยนต์ดับได้

9.ตื่นตัวกับสัญญาญเตือนให้หยุดรถหรืออุปสรรคที่ขวางอยู่บนถนน หากพบว่าถนนข้างหน้ามีน้ำท่วมขัง พยายามอย่าขับรถฝ่าไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย ให้มองหาเส้นทางใหม่ที่ปลอดภัยกว่า

10.ขับช้าๆ เมื่อต้องฝ่าน้ำท่วม หากจำเป็นต้องขับฝ่าน้ำที่ท่วมขังบนพื้นถนน ให้ขับไปอย่างช้าๆ อย่าขับรถฝ่าน้ำที่กำลังไหลอยู่ หรือหากไม่ทราบว่าแอ่งน้ำนั้นลึกขนาดไหน ควรหยุดรถก่อนที่จะถึงบริเวณน้ำท่วมและตรวจสอบความลึกของน้ำ ซึ่งโดยทั่วไป ถ้าระดับน้ำสูงกว่าขอบประตูรถหรือสูงกว่า 1 ใน 3 ของล้อเมื่อวัดจากพื้นถนน ไม่ควรขับฝ่าไปอย่างเด็ดขาด

11.เมื่อรถติดหล่ม ให้เปลี่ยนมาใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 และเร่งเครื่องช้าๆ อย่าเร่งเครื่องแรงจนทำให้ล้อหมุนฟรี เพราะจะทำให้รถจมลึกลงไปกว่าเดิมอีก


12.การเชนเกียร์ต่ำกระทันหันขณะฝนตกเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง ขณะที่พื้นถนนเปียก การเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็วซึ่งส่งผลกระทบต่อความเร็วของล้อและยาง อาจทำให้รถลื่นไหลและสูญเสียการควบคุมรถ ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ผู้ขับขี่ควรใช้ความระมัดเพิ่มขึ้นเมื่อต้องการเปลี่ยนมาใช้เกียร์ต่ำขณะขับ บนถนนลื่น โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถขึ้นเนินที่มีความลาดชัน

ท่านสามารถติดตามข่าวสารวงการยานยนต์ หรือตลาดรถมือสองได้ที่ www.ubonauto.com


และทางเฟสบุ๊คได้ที่ อุบลออโต้ แฟนเพจ






วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ภาพบรรยากาศบูธจัดกิจกรรม ร้าน pro cleaning เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2557 ที่ HT motor อุบลราชธานี

ภาพบรรยากาศบูธจัดกิจกรรม ร้าน pro cleaning อุบลราชธานี

งานรวมตัวกันและจัดแสดงรถบิ๊กไบค์ จากค่ายบิ๊กไบท์ต่างๆในจังหวัดอุบลราชธานี อย่างยิ่งใหญ่
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2557 HT ที่ HT motor อุบลราชธานี
และภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมเปิดคลีนิคสอนการขับขี่รถมอเตร์ไซต์ และหัดขับขี่ ซึ่งสอนโดย อ.เล็ก อิสระ อดีตนักแข่งรถมืออาชีพ อย่างใกล้ชิด
นอกจากนนี้ยังมีการจัดบูท ต่างๆมามาย








สำหรับบูธ
ร้าน pro cleaning
ศูนย์บริการคาร์แคร์มาตราฐาน สาขาอุบลราชธานี

บริการด้าน เสริมความเงางามรถยนต์ หรือเรียกสั้นๆ Spa Car หรือ Car Care ประกอบด้วย เครื่องมือเทคโนโลยี และ เคมีภัณฑ์ ที่ล้ำสมัยที่สุด นำเข้าจากประเทศ อิตาลี่ และ เยอรมัน ซึ่งทาง บริษัท ออโต้คาร์กรุ๊ป หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเครื่องมือและเคมีภัณฑ์อันล้ำสมัยนี้ จะได้รับใช้งานด้านการบริการกับรถยนต์อันเป็นที่รักของท่าน ภายใต้ แบรนด์ " SEEKER "




















































































































































ท่านสามารถติดตามข่าวสารวงการยานยนต์ 

หรือตลาดรถมือสองได้ที่ www.ubonauto.com

และทางเฟสบุ๊คได้ที่ อุบลออโต้ แฟนเพจ